#ความเป็นมาของเพจเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข
(บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของคอลัมน์ “เลี้ยงลูกอย่างมีความสุข” ที่แม่ป่านเขียนลงนิตยสารบันทึกคุณแม่ Mother’s Digest ประจำเดือนมิถุนายน 2560)
.
“ฉันมีความเชื่อมั่นมากว่า หากช่วงวัยเด็กก่อนที่แขนขาของลูกจะยืดยาวเก้งก้างเป็นวัยรุ่น เราได้หว่านเมล็ดแห่งความดีความงาม รดน้ำพรวนดินด้วยความรักความเมตตา ให้อาหารที่สมดุลทั้งทางกาย สมอง หัวใจ อารมณ์ ความรู้สึก สังคม เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และจิตวิญญาน…. เด็กๆจะยืดยืนขึ้นเป็นไม้ใหญ่ที่แข็งแรงมีรากแก้ว ยามเจอะเจอมรสุมพายุคะนอง เข้าจะไม่ล้มง่ายๆเหมือนต้นไม้บางชนิดที่โตทางลัด โตเร็ว มีแต่รากฝอย แต่ไม่มีรากแก้ว” : สมพร พึ่งอุดม
.
ถ้อยคำด้านบนช่างแสนงดงาม กินใจ แม่ป่านได้อ่านครั้งแรกตอนท้องลูกชายคนโต นับตั้งแต่วันนั้นมาเรา….คุณแม่ลูกสอง ก็มีความมุ่งมั่นอยู่ในใจว่าเรานั้นจะเป็นแม่ที่เลี้ยงดูลูกด้วยความรัก ความอ่อนโยน เข้าใจและยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น และทำหน้าที่ “แม่” ให้ดีที่สุดเท่าที่เรานั้นจะทำได้
.
แม่ป่านเป็นคุณแม่ฟูลไทม์ (หัวฟู ) เจ้าของเพจ “เลี้ยงลูกอย่างมีความสุข” คุณแม่ของลูกชายตัวเล็กน่ารักสองคน น้องพระพาย (ดช.ภัทรพัฒน์ เกษมสุวรรณ) อายุ 3 ขวบ 5 เดือน และลูกชายคนเล็ก น้องพสุ (ดช.พสุ เกษมสุวรรณ) อายุ 1 ขวบ 4 เดือน ลูกทั้งสองอายุห่างกัน 2 ปี ครอบครัวเราก็เป็นเหมือนครอบครัวลูกสองอื่นๆทั่วไปที่ในแต่ละวันจะวุ่นอยู่กับการเลี้ยงดูลูก ทำอาหาร, ป้อนข้าว, เล่นกับลูก และพาลูกไปเที่ยว ส่วนเวลาคุณพ่อไปบิน (คุณพ่อเป็นนักบิน) หน้าที่ดูแลลูกทั้งหมดจึงเป็นของแม่ป่านคนเดียวไปโดยปริยาย
.
ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยลูกชายคนแรกคลอด แม่ป่านและพ่อกอล์ฟช่วยกันเลี้ยงกันสองคน ตอนนั้นยังไม่มีแม้แต่แม่บ้าน งานบ้านทุกอย่างทำเอง และแน่นอนว่าพวกเราไม่มีประสบการณ์การเลี้ยงเด็กอ่อนแม้แต่น้อย (ไม่เคย…แม้กระทั่งอุ้มเด็กอ่อน) พวกเราอาศัยอ่านหนังสือคู่มือเลี้ยงเด็ก, อ่านบทความ และคอยจดจำสิ่งที่คุณพยาบาลให้คำแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ, การเปลี่ยนผ้าอ้อม, การห่อตัว, การอุ้ม, การให้นม และอื่นๆ เรียกได้ว่าตอนนั้นพวกเราเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่มีความมุ่งมั่นที่จะเลี้ยงลูกด้วยตนเองให้ได้
.
แม่ป่านยังจำวันแรกที่น้องพระพาย (ลูกชายคนแรก) ออกจากโรงพยาบาลกลับบ้าน แม่ป่านวางน้องลงบนเตียงเด็กที่ถูกจัดเตรียมไว้ก่อนหน้านั้นหลายเดือน ทั้งๆที่พวกเราคิดว่าได้วางแผนเตรียมตัวล่วงหน้าเป็นอย่างดี ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นถูกจัดวางไว้พร้อมสรรพ.
.
… แต่พอถึงเวลาจริงๆ …..แม่ป่านวางลูกลงแล้วปล่อยโฮ ร้องไห้กอดกันกับสามี …ต่อจากไปนี้ชีวิตน้อยๆของลูกจะอยู่ในมือของแม่คนนี้ …จะไม่มีพยาบาล ไม่มีพี่เลี้ยง ไม่มีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือให้คำปรึกษาอีกแล้ว ความกลัว ความกังวลว่าเราจะดูแลลูกได้ไม่ดี กลัวลูกเจ็บ กลัวลูกป่วย กลัวลูกจะเป็นอันตราย ข้าวของเครื่องใช้ที่คิดว่าวางไว้พร้อมแล้วกลับตื่นเต้นลนลานจนทำอะไรแทบไม่ถูก ตกกลางคืนลูกร้องไห้งอแง ตื่นบ่อยกว่าตอนอยู่โรงพยาบาลเสียอีก เรียกได้ว่าวันแรกมีความวุ่นวายและเครียดที่สุดวันหนึ่งในชีวิตทีเดียวค่ะ …. แม่ป่านยังจำ moment นั้นได้เป็นอย่างดี นึกถึงทีไรก็ยังตื่นเต้นทุกครั้ง
.
จากวันนั้นจนถึงวันนี้เกือบ 4 ปีแล้ว สิ่งที่ทำให้พวกเรามีวันนี้ …วันที่มั่นใจว่าเราเป็นพ่อแม่ที่สามารถเลี้ยงดูลูกได้ด้วยตัวเอง แบบไม่มีใครช่วย (มีเพิ่มเติมคือแม่บ้านที่เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระงานบ้าน หน้าที่เลี้ยงลูกยังเป็นของเรา 100 % อยู่ด้วยกันทุกวัน วันละ 24 ชม.เหมือนเคย) ลูกเป็นเด็กธรรมดาๆตัวเล็กๆที่น่ารัก มีพัฒนาการสมวัย เป็นเด็กที่มีความสุข สิ่งเหล่านั้นไม่ได้มาจากการอ่านหนังสือ ไม่ได้มาจากทฤษฏีการเลี้ยงลูกที่ซับซ้อนเพียงอย่างเดียว แต่หากคือ “ประสบการณ์ การลองผิดลองถูก การสังเกตจากตัวลูกเอามาปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดูด้วยตัวเอง” นั่นเองค่ะ จะบอกว่าพลาดมาก็เยอะ เจ็บมาก็เพียบ นั่งร้องไห้ออกจะบ่อยๆ แต่พวกเราก็จับมือผ่านกันมาได้ค่ะ
.
การเลี้ยงลูกสำหรับแม่ป่านเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดในชีวิตที่เคยได้รับ ถือเป็นเกียรติสูงสุดที่สามีมอบให้เรามาเป็นแม่ฟูลไทม์ เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงอย่างเรายอมสละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ความก้าวหน้า โอกาสในชีวิตและสังคมมาเป็นแม่คุณแม่หัวฟูโทรมๆ อยู่บ้านเลี้ยงลูกเต็มเวลา
.
การเลี้ยงเด็กสักคนไม่ได้ง่ายเลย มีรายละเอียดวิธีการมากมาย มีความซับซ้อน มีความละเอียดอ่อน เป็นความยากที่จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย เป็นอะไรที่เอากลุ่มคุณพ่อคุณแม่มานั่งคุยกันทั้งวันก็กล่าวถึงกันไม่หมด และเราคิดว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายๆท่าน จะมีความกังวล และมีคำถามมากมายหลายอย่างเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก … จึงเป็นที่มาของเพจ “เลี้ยงลูกอย่างมีความสุข by พระพายเด็กสองภาษา” เพจสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ร่วมแบ่งปันข้อมูลการเลี้ยงลูกในหลากหลายแง่มุม ทั้งแนวทางการเลี้ยงดู, กิจกรรมเสริมพัฒนาการตามวัย, พาลูกท่องเที่ยว, ปั้นเด็กสองภาษา, การทำอาหารเด็ก และอื่นๆ
.
เราเชื่อมั่นว่า สังคมแห่งการแบ่งปันจะร่วมสร้างสรรค์สังคมดีๆ ในอนาคต ที่ลูกของพวกเราจะได้เติบโตและใช้ชีวิตอยู่นั่นเอง แม่ป่านจึงมีความยินดีที่จะเขียนบทความ และร่วมแบ่งบันเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกตามแบบฉบับของ “แม่ธรรมดาๆ ที่อยากจะเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข”
— —– – — – – – – – – — – ———- – – — – – – – – – –
มาร่วมแบ่งปันสังคมดีดีกันนะคะ
ด้วยความปรารถนาดีจากใจ
แม่ป่าน admin