ดูไบ – อบูดาบี ชื่อนี้อาจจะไม่เคยอยู่ใน list ที่จะพาลูกไปเที่ยวใช่มั้ยคะ?
คุณพ่อคุณแม่อาจจะเคยจินตนาการว่า Middle East = ทะเลทราย อูฐ ความแห้งแล้ง และความร้อนระอุ จะมีอะไรมากไปกว่านั้น? แม่ป่านก็เคยคิดแบบนั้นค่ะ จนกระทั้งเมื่อเดือนที่แล้วได้มีโอกาสพาลูกไปทริปดูไบ-อบูดาบี เป็นเวลา 5 วัน ลองแล้วรู้ว่า “wow”
ไม่น่าเชื่อว่าเมืองที่เราเคยคิดว่ามีแต่ทะเลทรายนั้น จะมีลานสกี มีเพนกวินให้กอด, มีตึกที่สูงที่สุดในโลก, มีห้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก, มีสวนสนุกและสวนน้ำระดับโลกอย่าง Ferrari World, IMG World รวมไปถึงมีวิวสวยๆให้เก็บภาพเป็นที่ระลึกเต็มไปหมด ….
แม่ป่านไปช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ – ต้นเดือนมีนา ซึ่งเป็นฤดูหนาวของดูไบพอดี ซึ่งทำให้ทริปของเรานั้นสบายขึ้นมากเพราะอากาศกำลังดีค่ะ ด้วยอุณภูมิ 25-28 องศาในเวลากลางวัน และเริ่มเย็นๆในเวลากลางคืน (ประมาณ 23-25 องศา) ทำให้เราสามารถออกไปเดินเล่นสัมผัลทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา ล่องเรือชมตึกสวยๆ และอื่นๆอีกมากมาย
อ่านมาถึงตรงนี้ก็เริ่มสนใจเที่ยวดูไบแล้วใช่มั้ยล่ะ มาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ
โรงแรมที่พัก : Conrad Dubai รร.หรู ห้องพักใหญ่ เตียงนอนสบายมาก มีทีวีในห้องน้ำด้วยดีงามสามารถนอนแช่ในอ่างและดูทีวีไปพร้อมๆกัน หรูเว่อร์ , breakfast ดีงามมาก แม่ป่านเคยไปพักรร.มาเยอะมากๆนะคะ แต่รร.นี้ line อาหารโดยเฉพาะผลไม้นั้นมีให้เลือกเยอะมากที่สุดเท่าที่เคยไปมาเลย , location ดีงามมีสถานีรถไฟฟ้าอยู่ด้านหน้าเลย ,บริเวณโดยรอบมีร้านอาหาร, supermarket หรือจะรับประทานที่ห้องอาหารที่รร.ก็มีประมาณ 2-3 ร้าน พนง.ที่นี่ส่วนใหญ่เลยคือชาวฟิลิปปินส์และอินเดียก็จะน่ารักเป็นกันเอง (คนดูไบจริงๆจะค่อนข้างน้อย มีสัดส่วนประชากรประมาณ 19% ค่ะ)
การเดินทาง : เราไปเป็นกรุ๊ปเล็กๆค่ะ ประกอบไปด้วยผู้ใหญ่ 4 เด็ก 2 คน มีคนขับรถ และไกด์คอยดูแล และมีคนขับรถรับส่ง จึงสะดวกและเป็นกันเองมากๆ
เด็กๆเตรียมตัวยังไงบ้าง? : ขึ้นชื่อว่าทะเลทรายสิ่งแรกที่คิดถึงคือ ครีมกันแดดค่ะทั้งแม่และลูกเตรียมไปใช้ให้พอดี, เสื้อแขนยาวทั้งแบบบางและหนา (แบบหนาเอาไว้ใส่กลางคืนซึ่งจะมีลมอากาศค่อนข้างเย็นทีเดียว) นอกจากนี้พวกหมวกปีกกว้าง, รองเท้าผ้าใบใส่สบาย และรองเท้าที่ลุยน้ำแห้งง่าย, อาหารและขนมเตรียมไปนิดหน่อยไว้เผื่อฉุกเฉิน, ยาประจำตัวนั้นก็เป็นสิ่งที่จำเป็น อ้อ นอกจากนี้เตรียม mask กันฝุ่นไว้ (เผื่อวันไหนมีพายุทรายค่ะ)
สถานที่ๆเราไปนั้นอัดแน่นด้วยความสนุกท้าทาย ไม่ว่าจะเป็น
- Dubai Marina นั่งเรือชมเมืองและตึกระฟ้า
- Burj Khalifa : ขึ้นชมวิวบนชั้น 125 ตึกที่สูงที่สุดในโลก
- Dubai Mall : ห้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- Dubai Aquarium: อควาเรียมในร่ม
- Morning Dune Ride: รถ 4 wheel ตะลุยทะเลทรายสุดมันส์
- ขี่อูฐ, ชมสัตว์อนุรักษ์, sand board และสัมผัสประสบการณ์ Oasis กลางทะเลทราย
- Ski Dubai: สัมผัสหิมะเสมือนจริงในอุณหภูมิ -4 องศา เล่นสกี และกิจกรรมในโดมหิมะมากมาย
- Ferrari World : สวนสนุกระดับโลก เอาใจคนรักรถ
- IMG World : สวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก…
แค่เกริ่นก็น่าสนใจแล้วใช่มั้ยคะ จะน่าพาลูกไปเที่ยวขนาดไหน ตามมาอ่านรายละเอียดใต้รูปแต่ละรูปเลยจ้า เริ่ม !
ดีงามขนาดนี้อยากไปเที่ยวดูไบ- อบูดาบีด้วยกันก็ตามมานะคะ ไม่แน่นะคะ เราอาจจะได้เจอกันอีก เพราะเด็กๆที่บ้านชอบมาก อาจจะมีทริปที่ 2 ตามมาเร็วๆนี้
ว่าแล้วก็เก็บกระเป๋าเดินทางกันเลย…อ้อ แล้วอย่าลืมจองตั๋วกับ @Emirates สายการบินแห่งชาติของดูไบ เพื่อประสบการณ์การบินที่ล้ำเหนือใครนะจ้ะ เขามีโปรโมชั่นสุดคุ้มที่ออกมาเรื่อยๆตลอดทั้งปีค่าที่ emirates.com/th
แล้วอย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคะ มี VDO Review ด้วยน้า
#เที่ยวดูไบไม่ไปไม่รู้ #FlyEmiratesFlyBetter #Emirates
(ด้านล่าง ลงใต้ภาพแต่ละภาพ)
Day 1 : City Tour
Dubai Marina : เริ่มทริปของเราในวันแรกด้วยการนั่งเรือ 20 นาทีชมวิวตึกระฟ้าสวยๆของดูไบ ในคลองนี้เค้าบอกว่าเป็น man made คนสร้างขึ้นมาค่ะ ตึกต่างๆสวยมาก อากาศดีสุด ถึงแดดจะแรงแต่ไม่ร้อน
City Tour: คนขับรถพาขับรอบๆเมืองเพื่อชม The Plam Jumeirah, รร.และ conplex สุดหรู Atlantis และมาแวะที่ชายหายเพื่อถ่ายรูปกับโรงแรม Burj Al Arabs รร. 7 ดาวที่เดียวของโลก รูปทรงคล้ายเรือที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของดูไบ
Dubai Mall: ไปสัมผัสห้างที่ใหญ่ที่สุดของโลกกันค่ะ ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุด แถมยังหรูหรา มีสินค้าแทบทุกแบรนด์หรูแบรนด์ดังที่คุณจะฝันถึงรวบรวมมาไว้ที่นี่ที่เดียวแบบจุใจ ใครอยากมองหาของฝาก หรือแวะทานอาหารแสนอร่อยก็มีให้เลือกมากมาย (แถมยามเย็นเลือกทานอาหารที่ระเบียงด้านนอกของร้าน ยังได้ชมการแสดงแสงสีเสียงและน้ำพุสุดยิ่งใหญ่ที่เปิดแสดงทุกๆ 30 นาทีอีกด้วยนะคะ ทานอาหารไปด้วย ชมการแสดงไปด้วยฟินที่สุดค่ะ)
Dubai Aquarium : เป็นอควาเครียมในห้าง Dubai Mall นั่นเองค่ะ เป็น Aquarium ในร่มที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รวมสัตว์น้ำกว่า 33,000 ตัว มีอุโมงค์ลอด มีแผงอคริลิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม่ป่านเคยไปชม tank แบบนี้ที่ญี่ปุ่นก็หลายที่ ตอนนั้นก็รู้สึกว่าใหญ่โตแล้วแต่ที่นี่ตระการตามากๆเลยค่ะ
Burj Khalifa : ฝันเป็นจริงแล้ว ได้ขึ้นไปชมวิวบนตึกที่สูงที่สุดในโลกที่ชั้น 1125 สูงมาก หวิวมาก มองเห็นก้อนเฆมลอยผ่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และชมวิวสวยงามด้านล่าง รวมไปถึงเดินชม museum ที่จัดแสดงที่มาและประวัติการออกแบบและก่อสร้างของตึกนี้ตั้งแต่เริ่มแรกเลย เห็นแล้วทึ่งกับความตั้งใจ และความสามารถของเค้าจริงๆ (ตึกนี้จริงๆมีทั้งหมด 165 ชั้น แต่เปิดให้เข้าชมที่ชั้น 124-125 ค่ะ)
รับประทานอาหารค่ำ: ชมวิว น้ำพุแห่งดูไบ The Dubai Fountain ที่สวยมากจริงๆ ลูกชอบมากๆปรบมือใหญ่ ตาลุกวาวเลยค่ะ แสดงแสงสีเสียงตระการตา ซึ่งน้ำพุแห่งดูไบนี้จะอยู่บริเวณเดียวกับตึกสูงที่สุดในโลกอย่าง Burj Khalifa ,ห้าง Dubai Mall จะอยู่บริเวณเดียวกันหมด (จำได้ว่าเคยชม live แสดงน้ำพุในงาน countdown ปีใหม่ของดูไบและรู้สึกว่าชอบมาก สักวันต้องมาเห็นกับตาให้ได้ ตอนนี้สมหวังดังใจแล้วค่ะ ฟิน…)
เรานั่งทานข้าวเย็นกันที่ระเบียงด้านของของร้านอิตาเลี่ยน Carluccio สามารถทานอาหารไป ชมวิวตึก Burj Khalifa ไป และมีการแสดงแสงสีเสียงและน้ำพุทุกๆ30 นาที แม่ป่านยังจำภาพลูกชายทานข้าวไป ปรบมือไป ดวงตาเป็นประกายเวลาเห็นน้ำพุเริงระบำ เป็นความทรงจำที่ดีสุดๆไปเลยค่ะ
Day 2 : ตะลุยทะเลทราย ตอนบ่ายเล่นสกี
Morning Dune Ride: นั่งรถ 4wheel-drive เข้าเขตอนุรักษณ์ธรรมชาติทะเลทรายดูไบ เพื่อขับรถตะลุยทราย เด็กๆชอบมาก กรี๊ดกันใหญ่ (สนุกขนาดไหนต้องรอชมใน VDO review น้า) ได้เห็นสัตว์อนุรักษ์ต่างๆ ได้ขี่อูฐ เล่น sand board และพักรับประทานอาหารกลางวันที่แคมป์ตกแต่งสวยงามราวกับเป็น Oasis ที่พักแรมของนักเดินทางในทะเลทรายแบบที่เคยดูในหนังเลย (ตอนเย็นๆมีการแสดงด้วยนะคะ เสียดายไม่ได้อยู่ชม เพราะเราจะไปเล่นสกีกัน !!!)
Ski Dubai at Mall of Emirates : เล่นสกี สัมผัสเพนกวิน …ใครจะไปเชื่อล่ะ ว่าตอนเช้าเราได้สัมผัสทะเลทรายแดดแรง และตอนบ่ายจะเจอหิมะที่อุณภูมิ -4 องศา มันพีคมาก ! เมื่อได้ตั๋วแล้วก็จัดแจงเปลี่ยนชุดที่เค้ามีให้เช่า และเข้าไปต่อคิวชมเพนกวินกันเลย ในนี้เด็กๆ (และพ่อแม่) ได้ลองจับ กอด และจุ๊บเพนกวินตัวเป็นๆ บอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ นอกจากนี้ในโดมหิมะนั้น ยังมีกิจกรรมมากมายให้เด็กๆสนุกได้ทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น เล่นสกี, sledge สุดมันส์ (พระพายเล่นประมาณ 20 รอบได้ค่ะ สนุกสุดๆ) , ลากเลื่อน, ไต่เขา และอื่นๆอีกมากมาย นับว่าเป็นอีก 1 สถานที่ must go ของดูไบทีเดียว
Day3 : Abu Dhabi city tour & Ferrari World
Grand Mosqe : สถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม ซึ่งสวยงามตระการตาโดยใช้เวลาออกแบบยาวนานถึง 12 ปี หินอ่อนนำเข้าจากตุรกี และพรมจากเปอร์เซีย เรียกได้ว่าความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่นี่จะงดงามตราตรึงในใจของทุกคนที่ได้เข้าไปสัมผัสค่ะ
ปล. hilight ของวันนี้คือแม่ป่านได้มีโอกาสได้ใส่ชุดของหญิงอิสลาม ที่อยากลองใส่มานาน (ไกด์นำมาให้ลองค่ะใจดีมากกกก)
Heritage Village : ไกด์พามาที่นี่ที่มีร้านค้าขายของที่ระลึก และ museum แสดงประวัติของชนผ่าดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่โบราณ
Ferrari World : เป็น hilight อีกที่ เหตุผลที่มาดูไบเลยทีเดียวค่ะ ที่นี่เป็นที่ที่ลูกชายคนโต(น้องพระพาย)รอคอยที่จะมาเยือนเพราะลูกชอบรถแข่ง Ferrari มากกกก เลยได้เติมเต็มความฝันของลูกชายค่ะ ที่นี่มีเครื่องเล่นต่างๆให้เด็กทุกเพศทุกวัยได้เล่นมากมาย playground ของเด็กเล็กก็น่าสนุกท้าทายและปลอดภัยด้วยค่ะน้องพสุรับประกัน รวมไปถึงการที่ได้เดินดูรถ Ferrari ของจริงรุ่นต่างๆที่มาแสดงแล้วยิ่งฟินไปใหญ่ ก่อนกลับได้แวะซื้อของฝากจุใจทีเดียว
Yas Mall : สวนสนุก Ferrari World ยังติดกับห้างใหญ่อย่าง Yas Mall ซึ่งมีอาหารและสินค้ามากมายจัดจำหน่าย
Day 4 : IMG World ปิดท้ายทริปดูไบของเรากันที่สวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง IMG World ที่รวบรวมเครื่องเล่นจากหลากหลายธีม ประกอบไปด้วย โซน Marvel ถูกใจลูกชายบ้านนี้สุดๆ (แม่ป่านแนะนำ Spider Man เป็น Roller Coaster ที่มันส์มากๆ เล่นกับลูกชายไป 2 รอบค่ะ อยากเล่นอีก) นอกจากนี้ยังมีโซน Dinosour ที่มีไดโนเสาร์เสมือนจริงขยับได้ ให้ความรู้สึกราวกับได้หลุดไปอยู่ในโลกจูราสิคเลยทีเดียว, โซนสุดท้ายจะเป็นโซนของการตูนชั้นนำไม่ว่าจะเป็น Benten, Loonnie Toons รวมเครื่องเล่นน่ารักๆมากมายให้เลือกสัมผัส เครื่องเล่นส่วนใหญ่จะให้เด็กทีสูง 107, 130 cm ขึ้นไปเล่นค่ะ จึงอาจจะเหมาะกับเด็กที่โตแล้วนิดนึง
ส่วนตัวไปสวนสนุกในดูไบมาสองที่ รู้สึกว่าเล่นสบาย โล่ง ไม่ต้องต่อคิวนานเหมือนที่ฮ่องกง หรือญี่ปุ่นที่ต้องต่อแถวกันเป็นชั่วโมงๆ หรือต้องไปแย่ง fast track โดยที่ดูไบจะเล่นสบายๆ ต่อแถวไม่นาน และไม่ต้องตากแดดตากฝน เพราะอยู่ในร่มด้วยค่ะ
ดีงามขนาดนี้อยากไปเที่ยวดูไบ- อบูดาบีด้วยกันก็ตามมานะคะ ไม่แน่นะคะ เราอาจจะได้เจอกันอีก เพราะเด็กๆที่บ้านชอบมาก อาจจะมีทริปที่ 2 ตามมาเร็วๆนี้
ว่าแล้วก็เก็บกระเป๋าเดินทางกันเลย…อ้อ แล้วอย่าลืมจองตั๋วกับ @Emirates สายการบินแห่งชาติของดูไบ เพื่อประสบการณ์การบินที่ล้ำเหนือใครนะจ้ะ เขามีโปรโมชั่นสุดคุ้มที่ออกมาเรื่อยๆตลอดทั้งปีค่าที่ emirates.com/th
แล้วอย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะคะ มี VDO Review ด้วยน้า
#เที่ยวดูไบไม่ไปไม่รู้ #FlyEmiratesFlyBetter #Emirates